ค้นหารถ Mitsubishi มือสอง

เมื่อต้องขับรถลุยน้ำท่วมขัง ควรปฏิบัติอย่างไรบ้าง ?

Mae Noi | 9 ส.ค 2564
เมื่อเมืองไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล มีโอกาสที่น้ำจะท่วมขังเนื่องจากการระบายน้ำฝนไม่ทัน ซึ่งการท่วมขังของน้ำอาจจะมีตั้งแต่ไม่กี่เซนติเมตร ตลอดจนท่วมขังสูงจะไม่สามารถขับรถยนต์ลุยไปได้ เมื่อต้องขับรถลุยน้ำด้วยความจำเป็นที่เลี่ยงไม่ได้ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ถึงจ

เมื่อเมืองไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล มีโอกาสที่น้ำจะท่วมขังเนื่องจากการระบายน้ำฝนไม่ทัน ซึ่งการท่วมขังของน้ำอาจจะมีตั้งแต่ไม่กี่เซนติเมตร ตลอดจนท่วมขังสูงจะไม่สามารถขับรถยนต์ลุยไปได้

เมื่อต้องขับรถลุยน้ำด้วยความจำเป็นที่เลี่ยงไม่ได้ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ถึงจะสามารถพารถยนต์ของคุณรอดพ้นจากน้ำที่ท่วมขัง ซึ่งในบทความจะมาแนะนำวิธีการที่ต้องขับรถลุยน้ำอย่างไรถึงจะรอด

>>>แนะนำรถครอบครัว 2021 ในราคาที่จับต้องได้

วิธีการขับรถลุยน้ำ

1. เส้นทางที่คุ้นเคยไหม?

เชื่อว่าถ้าเป็นถนนเส้นทางที่คุณขับผ่านเป็นประจำทุก ๆ วัน อย่างน้อยมั่นใจได้ว่าคุณจะรู้จุดต่าง ๆ บนถนน ไม่ว่าจะเป็นหลุมบ่อบริเวณไหน ตลอดจนถนนช่วงไหนเป็นบ่อลึกหรือเนินลูกระนาดเป็นต้น การที่เรารู้ถนนเส้นทางจะทำให้คุณได้เปรียบเวลาขับรถยนต์ผ่าน เนื่องจากคุณจะสามารถหลบเลี่ยงได้นั้นเอง ตามปากเส้นทางที่จะขับรถลุยน้ำนั้นจะน่ากลัวในเฉพาะถนนรอง ตลอดจนซอกซอยต่าง ๆ ที่มีระบบระบายน้ำไม่ดีนั้นเอง

2. รถยนต์ของคุณขับรถลุยน้ำได้แค่ไหน ?

เรียกว่าเป็นการประเมินความสามารถของรถยนต์ของคุณเอง โดยรถยนต์แต่ละชนิดจะสามารถลุยน้ำที่ท่วมสูงแตกต่างกันออกไป หากเป็นรถเก๋งธรรมดาทั่วไป สามารถจัดได้ว่าเป็นรถยนต์ที่มีความสูงของตัวถังรถยนต์กับพื้นถนนน้อยกว่ารถชนิดอื่น ๆ ก็ทำให้ความสามารถในการลุยน้ำน้อยกว่า

กลับกันหากเป็นรถกระบะตัวยกสูง ความสามารถในการลุยน้ำที่ท่วมขังก็เยอะกว่ารถชนิดอื่น ๆ นั้นเอง เรื่องความสามารถในการลุยของรถยนต์ของคุณ จำเป็นต้องอย่างเสียไม่ได้ เมื่อไปเจอซอยน้ำมีน้ำท่วมขังประมาณหัวเข่า คุณจะประเมินสถานการณ์ได้ทันทีว่าความสูงในระดับนี้ อยู่ประมาณไหนของรถยนต์ และเป็นอันตรายรึไม่อีกด้วย

3. เมื่อมีคนเตือนว่าน้ำท่วมขังลึก อย่าเข้าไปเลย จงเชื่อคนที่เขาบอก

หากเป็นเส้นทางที่คุณคุ้นชิน อาจจะประเมินสถานการณ์ได้ว่าควรเชื่อคนที่บอกรึไม่ แต่ถ้าเป็นเส้นทางที่คุณไม่คุ้นชินแล้วล่ะก็ บอกได้เลยควรเชื่อคนที่คนที่บอกแนะนำ เนื่องจากคุณไม่รู้ว่าขับต่อไปสภาพถนนจะเป็นอย่างไร ถนนจะต่ำลงกว่าเดิมรึไม่ ตลอดจนน้ำที่ท่วมขังมีระยะทางเท่าไหร่ เรียกได้ว่ามันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงไป

ทั้งหมดที่แนะนำมานั้น ถือว่าเป็นวิธีการเลี่ยงความเสี่ยงที่รถยนต์อาจเกิดปัญหาจากการลุยน้ำท่วมขังนั้นเอง แต่หากคุณเลี่ยงไม่ได้แล้วที่จะลุยน้ำ อาจต้องมีวิธีการต่าง ๆ ที่จะช่วยให้รถยนต์ของคุณไม่เสียหายจากการลุยน้ำดังต่อไปนี้

4.  ปิดแอร์รถยนต์ (รถลุยน้ำ)

สิ่งแรกที่จะต้องทำเมื่อตัดสินใจว่าจะขับรถยนต์ลุยน้ำที่ท่วมขังในระดับ การปิดแอร์จะป้องกันไม่ใช่ใบพัดระบายความร้อนไม่ให้ตีน้ำที่ไหลผ่านเครื่องยนต์ ตัดปัดปัญหาน้ำกระเด็นไปโดนจุดสำคัญของเครื่องยนต์ อาทิ กล่องไฟควบคุมเป็นต้น นอกจากนี้ยังป้องกันใบพัดระบายอาการเสียหายจากการตีไปที่น้ำอีกด้วย

5. ใช้เกียร์ต่ำในการขับขี่ (รถลุยน้ำ)

Đừng vội Bạn chỉ sử dụng số thấp để lội qua nước. Cố gắng giữ yên vòng tua máy, có thể sử dụng tốc độ 20-30 km là đủ. Để làm điều này là Xe sẽ không tạo ra sóng nước quá lớn đến mức xe đang điều khiển làn đường gặp sóng nước.

6. ขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ และไม่เร่งแซง (รถลุยน้ำ)

ต่อเนื่องจากข้อที่แล้ว การขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ และการไม่เร่งแซงในสภาพน้ำท่วมขัง เป็นเรื่องมารยาทที่ควรปฏิบัติ เนื่องจากการเร่งแซงอาจทำให้รถยนต์คันหน้าเสียจังหวะ ตลอดจนรถคุณเองก็อาจเสียจังหวะ จนเกิดเครื่องยนต์ดับก็ว่าได้ ควรค่อย ๆ ขับตามกันไป ลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นนั้นเอง

7. เมื่อลุยน้ำแล้วเครื่องยนต์ดับ (รถลุยน้ำ

เรียกว่าเป็นคราวซวยในรอบเดือน หรือปีของคุณก็ว่าได้ เมื่อลุยน้ำที่ท่วมขังแล้วเครื่องยนต์ดับขึ้นมา คำแนะนำที่ดีที่สุดก็คือ ห้ามสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่ เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังได้เข้าไปในระบบเครื่องยนต์เป็นที่เรียบร้อย หากสตาร์ทเครื่องยนต์ความเสียหายอาจเพิ่มขึ้น จากที่จะนำรถยนต์ไปเป่ากรองอากาศไล่น้ำ อาจถึงขั้นเปิดเครื่องยนต์เลยทีเดียว

เมื่อเครื่องยนต์ดับให้พยายามเข็นดันรถยนต์ของคุณหลบไว้ข้างทาง และโทรเรียกประกันหากคุณทำไว้ ตลอดจนเรียกรถสไลด์มายกไปซ่อมนั้นเอง

>>>คำถามที่ใครอาจสงสัย ซื้อรถรุ่นไหนดี 2021


ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://mitsubishirakatook.com/