ค้นหารถ Mitsubishi มือสอง

ขนาด เครื่องยนต์ คืออะไร สำคัญแค่ไหน?

Churai | 23 ก.ย 2564
เมื่อเทคโนโลยียานยนต์พัฒนาไปตามเวลา ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราจะได้เห็นการพัฒนาองค์ประกอบต่าง ๆ ของรถอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ที่เป็นไปยุคสมัย ระบบความปลอดภัยที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุด อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่นับวันจะให้คุณสะดวกสบายกว่าในอดีต ตลอดจนเครื่องยนต์ที่มีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องนั้นเ
เมื่อเทคโนโลยียานยนต์พัฒนาไปตามเวลา ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราจะได้เห็นการพัฒนาองค์ประกอบต่าง ๆ ของรถอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีไซน์ที่เป็นไปยุคสมัย ระบบความปลอดภัยที่พัฒนาไปอย่างไม่หยุด อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่นับวันจะให้คุณสะดวกสบายกว่าในอดีต ตลอดจนเครื่องยนต์ที่มีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องนั้นเอง การพัฒนาของเครื่องยนต์ เรียกได้ว่าในทุก ๆ องค์ประกอบก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขนาด เครื่องยนต์ ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบระบายความร้อน ตลอดจนระบบเผาไหม้ ทุกอย่างที่กล่าวมาเรียกได้ว่ามีการพัฒนาอย่างไม่หยุดตั้งแต่มีรถยนต์เกิดขึ้นมาบนโลก อ่านเพิ่มเติม ในส่วนของขนาด เครื่องยนต์ เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่ชัดเจนสุด ๆ ในอดีตถ้าอยากได้รถยนต์ที่มีกำลังเยอะ ๆ มีทั้งความเร็วความแรง จำเป็นต้องต้องผลิตเครื่องยนต์ที่ขนาดใหญ่มาก ๆ ยกตัวอย่างเช่น รถฝั่งอเมริกายุคก่อน 80s เรียกได้ว่าจะพบเครื่องยนต์ 8 สูบ ขนาด 5,000 ซี.ซี. เป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้ข้อดีของเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ก็คือ มีกำลังมหาศาล เครื่องนิ่ง และใช้งานจริงรอบเครื่องยนต์จะต่ำมาก ๆ ทำให้การสึกหรอของเครื่องยนต์น้อยนั้นเอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องยนต์ที่ใหญ่ขนาดนี้จะมีอัตรากินน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงมาก ๆ
id="attachment_802" align="aligncenter"
เครื่องยนต์ ขนาด เล็ก เครื่องยนต์รถอเมริกาในยุค 70s กลับมาที่ในไทยบ้านเรา ในอดีตช่วงไม่กี่ปีสิบปีที่ผ่านมาสามารถเห็นรถเก๋งที่ลดขนาดเครื่องยนต์ลงมาเรื่อย ๆ จากยุคหนึ่งนิยมเครื่องยนต์ขนาด 3,000 ซี.ซี. / 2500 ซี.ซี. / 2,000 ซี.ซี. แบบเป็นเรื่องปกติ ก่อนที่เวลาต่อมาจะมีการลดขนาดกันมาอยู่ที่ 1,800 และ 1,600 ซี.ซี. โดยประมาณ ซึ่งการลดขนาดเครื่องยนต์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากเทคโนโลยีที่สามารถทำให้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ ๆ สร้างกำลังแรงม้าและแรงบิดที่ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ในยุคเก่านั้นเอง นอกจากนี้ข้อดีของเครื่องยนต์ ขนาด เล็กคงหนีไม่พ้นเรื่องอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตามรถยนต์ เครื่อง 1600 ที่เคยได้รับความนิยมนั้น ในปัจจุบันก็มีการลดขนาดเครื่องยนต์ลงไปจากเดิมอีกเป็นที่เรียบร้อย ในปัจจุบันรถเก๋งขนาดเล็ก (Eco Car) เรียกได้ว่ามีการลดขนาดเครื่องยนต์ให้ลงมาเหลือ 1,000 ซี.ซี. และ 1,200 ซี.ซี. กันทั้งหมดทุกยี่ห้อ โดยมีทั้ง Nissan Almera และ Honda City ที่เลือกใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1,000 ซี.ซี. ที่พกพาระบบอัดอากาศ (เทอร์โบ) มาพร้อมกับเครื่องยนต์ ซึ่งประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ขนาด 1,500 ซี.ซี. แบบธรรมดาก็ว่าได้
id="attachment_803" align="aligncenter"
เครื่องยนต์ ดีเซล ขนาด เล็ก ไทย เครื่องยนต์ขนาด 1 ลิตร ของ Nissan Almera นอกเหนือจากขนาด เครื่องยนต์เบนซินที่ลดขนาดลงไปตามเทคโนโลยีต่าง ๆ แล้ว สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลก็มีการปรับลดเช่นเดียวกัน แต่อาจไม่ได้รับความนิยมมากมายสักเท่าไหร่ เนื่องจากเครื่องยนต์ดีเซลเป็นที่นิยมในกระบะกับรถเอสยูวีเป็นหลัก ส่วนในรถเก๋งนั่งรุ่นเล็ก ๆ ไม่ได้รับความนิยมก็ว่าได้ ในอดีตเราจะเห็นเครื่องยนต์ดีเซลที่อยู่ในรถกระบะที่ขนาด 3,200 ซี.ซี. กับ 3,000 ซี.ซี. เป็นมาตรฐานในอดีต ก่อนที่จะมีการลดขนาดเครื่องยนต์ลงเหมือนกับทางเครื่องยนต์เบนซินนั้นเอง
id="attachment_804" align="aligncenter"
diesel engine 3.2l เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.2 ลิตร ปัจจุบันเครื่องยนต์ดีเซลที่อยู่ในรถกระบะกับรถเอสยูวีที่มีขนาดเล็กสุดก็คือ เครื่องยนต์ของทาง Isuzu มาในขนาด 1.9 ลิตร VGS เทอร์โบ มอบกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร 1,800 – 2,600 รอบ/นาที สำหรับในแง่การใช้งานทั่วไปเรียกได้ว่ามีกำลังที่เพียงพอก็ว่าได้ แต่ถ้าในแง่รถกระบะบรรทุกหนักเวลาเร่งแซง การออกตัว อาจไม่ได้ดั่งใจสักเท่าไหร่ แต่ก็แลกกลับมาด้วยความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นเอง สำหรับเครื่องยนต์ ดีเซล ขนาด เล็ก ไทยอีกรุ่นที่อยู่ในรถเก๋งก็คือ Mazda 2 รุ่นดีเซล อาจไม่ได้รับความนิยมเท่ากับเครื่องยนต์เบนซินสักเท่าไหร่ เนื่องจากโดนภาษีต่าง ๆ จนทำให้รถยนต์รุ่นนี้มีราคาที่สูง โดยขนาด เครื่องยนต์อยู่ที่ 1.5 ลิตร ซึ่งมีข้อดีในเรื่องความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และความทนทานนั้นเอง สุดท้ายนี้เห็นได้ชัดว่าขนาด เครื่องยนต์ของรถในปัจจุบันจะมีการลดขนาดลงไปเรื่อย ๆ ตามเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทำให้เครื่องยนต์ขนาดเล็กมีกำลังใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ใหญ่ในยุคเก่านั้นเอง นอกจากกำลังที่ใกล้เคียงแล้วยังมีเรื่องความประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิเช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่จ่ายน้อยลงจากเครื่องยนต์ที่เล็ก และค่าซ่อมบำรุงที่ถูกลงตามขนาด เครื่องยนต์ อย่างไรก็ตามการเลือกรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์เหมาะสมกับการใช้งาน ถือว่าเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ที่สุด หากเครื่องยนต์เล็กไปกำลังก็ไม่เพียงพอ ทำให้การขับขี่ก็ใช้งานยาก แต่หากเครื่องยนต์ใหญ่เกินค่าบำรุงรักษาก็มากเกินความจำเป็น ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://mitsubishirakatook.com/