เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเราในปัจจุบัน ในรถยนต์รุ่นใหม่จะมีสัญลักษณ์ ไฟ ECO ขึ้นมาที่หน้าปัดรถยนต์ แล้ว ไฟ ECO คืออะไร มีไว้ทำไม เราไปดูคำตอบกัน
ไฟ ECO หมายถึงอะไร
ECO แปลว่า นิเวศวิทยา ส่วนไฟ ECO คือไฟที่โชว์ขึ้นบนหน้าปัดรถยนต์ เพื่อแจ้งให้ผู้ขับขี่ทราบว่าในการขับขี่ ช่วงเวลานั้น รถยนต์มีการใช้พลังงานได้คุ้มค่าที่สุดและประหยัดที่สุด หรือเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาการขับขี่ที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุด โดยปกติแล้วการออกตัวรถเป็นการใช้เชื้อเพลิงที่สิ้นเปลืองที่สุด เนื่องจากว่าเป็นการเร่งรอบเครื่องยนต์โดยการเหยียบคันเร่งแบบแรง ๆ
แล้วช่วงเวลาที่ประหยัดน้ำมันที่สุดคืออะไร ง่ายๆ ก็คือ เมื่อรถของคุณมีอัตราส่วนผสมของอากาศกับน้ำมันเหมาะสมที่สุด จะเกิดมาจากการใช้รอบเครื่องเหมาะสมกับความเร็วมากที่สุด เช่น ในเวลาที่คุณขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ ไม่เหยียบคันเร่งกระแทกแรง ๆ เพื่อต้องการให้รถพุ่งกระชาก
กระบวนการทำงานของ ไฟ ECO
-
ระบบจะวัดแรงดัน Vacuum ในท่อไอดีซึ่งจะเปลี่ยนแปลงจากการเปิดและปิดของลิ้นปีกผีเสื้อ
-
ถ้าเร่งเครื่องยนต์ลิ้นผีเสื้อจะเปิดมาก แสดงว่า Vacuum จะลดต่ำลง
-
เมื่อยกคันเร่ง หรือถอนคันเร่ง ลิ้นปีกผีเสื้อจะปิด แสดงว่า Vacuum จะเพิ่มจนถึงจุดหนึ่งที่ทางค่ายกำหนดไว้ว่าเป็นระดับที่จะช่วยให้รถประหยัดน้ำมัน และไฟ Eco ก็จะโชว์ขึ้นมา
ไฟ ECO จะโชว์ขึ้นเพื่อบอกว่าช่วงจังหวะการขับขี่นั้นประหยัดแล้ว ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถจดจำลักษณะการขับขี่ในการเหยียบคันเร่งที่เหมาะสมเพื่อความประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น
อ่านเพิ่มเติม:
ECO Mode
ECO Mode คืออะไร
ECO Mode คือการปรับเครื่องยนต์ให้เข้าสู่โหมดการขับขี่ที่ประหยัดขึ้น และวิธีการทำงานของปุ่ม ECO Mode คือ เมื่อมีการใช้งานใน ECO Mode แล้ว สัญญาณจะส่งไปยังกล่อง ECU ของรถและสั่งการให้เครื่องยนต์ในโหมดประหยัด อาทิเช่น อัตราการฉีดของน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังห้องเครื่องจะฉีดน้อยลงเพื่อประหยัดพลังงาน
สำหรับการใช้งานระบบ ECO Mode จะเหมาะแก่การใช้ในเส้นทางที่จราจรติดขัด อย่างในเมือง จะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมันได้มากที่สุด
สัญลักษ์ ECO
จริง ๆ แล้ว การที่รถยนต์ของคุณจะประหยัดน้ำมันหรือไม่นั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับ Mode ต่าง ๆ หรือขนาดของเครื่องยนต์เสมอไป เพราะถ้าผู้ขับขี่เหยียบคันแร่งแบบไม่ยั้งก็ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันไปอยู่ดี แต่ถ้าผู้ขับขี่รู้จักประมาณการขับรถโดยสั่งเกตที่ไฟ ECO ว่าการขับขี่ระดับนี้เป็นการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง รักษาความเร็ว และอันตราการเร่งให้คงที่ก็จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากและยังถือว่าเป็นการขับขี่ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุอีกด้วย
