คนมีรถต้องไม่พลาดกับเรื่องสำคัญ สำหรับการต่อพ.ร.บ. มาดูกันว่ารถยนต์แต่ละประเภทต้องจ่ายเท่าไหร่ เช็กราคา พ.ร.บ. รถยนต์ ล่าสุดประจำปี 2565
พ.ร.บ.รถยนต์ หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพ.ศ. 2535 คือประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ที่กฎหมายระบุเอาไว้ว่ารถที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกทุกคันจะต้องมี โดยจะต้องต่อพ.ร.บ.ทุกปี เพื่อให้รถยนต์ของคุณสามารถใช้วิ่งบนท้องถนนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
พ.ร.บ. คนละแบบกับภาษีรถยนต์
- พ.ร.บ.รถยนต์ คือการจ่ายเงินซื้อแผนประกัน เพื่อรับความคุ้มครองเรา กรณีเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์
- ภาษีรถยนต์ คือการจ่ายเงินเป็นค่าบำรุง เพื่อใช้สนับสนุนหน่วยงานคมนาคม นำไปใช้บำรุงการใช้ถนนหนทางต่าง ๆ ที่รองรับการใช้งานรถทั่วประเทศ
หลายคนสับสนระหว่าง ราคา พ.ร.บ. รถยนต์ และภาษีรถยนต์ นั่นเป็นเพราะว่าทั้งสองแบบอย่างจะต้องทำการต่ออายุในทุก ๆ ปี ซึ่งการที่จะต้อภาษีรถยนต์ได้ จะต้องต่อพ.ร.บ.ให้เรียบร้อยเสียก่อน
ต่อพ.ร.บ.รถยนต์ ล่วงหน้าได้กี่วัน
การต่อพ.ร.บ.รถยนต์ สามารถซื้อความคุ้มครองล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน แต่ไม่สามารถซื้อย้อนหลังได้ หากไม่ทำในปีใดก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองในปีนั้นและก็ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 โดนโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
หากไม่ได้ต่อพ.ร.บ. ก็เท่ากับว่าไม่สามารถเสียภาษีรถยนต์ได้ หากปล่อยให้ทะเบียนรถยนต์ขาด จะต้องเสียค่าปรับเดือนละ 1% และถ้าปล่อยให้ขาดติดต่อนานเกิน 3 ปี จะต้องชำระภาษีที่ค้างเอาไว้ พร้อมค่าปรับเดือนละ 1% และเลขทะเบียนรถก็จะถูกระงับ หากนำรถมาใช้จะถือว่าเป็นรถที่ผิดกฎหมาย ต้องติดต่อกับกรมขนส่งทางบกเพื่อทำเรื่องจดทะเบียนใหม่
เอกสารที่ใช้ต่อพ.ร.บ.รถยนต์
การต่อพ.ร.บ.สามารถทำได้ง่าย ๆ ควบคู่ไปกับการต่อภาษีรถประจำปี โดยใช้เอกสารดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาทะเบียนรถ หรือใช้เล่มจริง
นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นต่อพ.ร.บ.ได้ที่กรมขนส่งแต่ละจังหวัด ซึ่งหากไม่สะดวกก็สามารถเรียกใช้บริการบริษัทประกันภัยมาช่วยดำเนินการได้ หรืออีกวิธีก็คือการต่อพ.ร.บ.รถยนต์แบบออน์ ที่เป็นขั้นตอนที่เสริมขึ้นมาในการต่อภาษีออนไลน์ ที่สะดวก ทำได้ง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเอง
ราคา พ.ร.บ. รถยนต์
สำหรับอัตราค่าเบี้ย พ.ร.บ.รถยนต์ จะถูกกำหนดเป็นอัตราเบี้ยคงที่อัตราเดียว แยกตามประเภทรถ และลักษณะการใช้รถ ซึ่งบริษัทประกันภัยไม่สามารถคิดเบี้ยประกันภัยต่างจากที่นายทะเบียนกำหนด ดังนี้
ประเภทรถ |
ราคา (บาท/ปี) |
|
ส่วนบุคคล |
รับจ้าง/ให้เช่า/ |
|
รถยนต์โดยสาร ที่นั่งไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง) |
600 |
1,900 |
รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน ไม่เกิน 15 ที่นั่ง (รถตู้) |
1,100 |
2,320 |
รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน เกิน 15 ที่นั่ง ไม่เกิน 20 ที่นั่ง |
2,050 |
3,480 |
รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน เกิน 20 ที่นั่ง ไม่เกิน 40 ที่นั่ง |
3,200 |
6,660 |
รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน เกิน 40 ที่นั่ง |
3,740 |
7,520 |
รถยนต์บรรทุก น้ำหนัก ไม่เกิน 3 ตัน (รถกระบะ) |
900 |
1,760 |
รถยนต์บรรทุก น้ำหนัก เกิน 3 ตัน ไม่เกิน 6 ตัน |
1,220 |
1,830 |
รถยนต์บรรทุก น้ำหนัก เกิน 6 ตัน ไม่เกิน 12 ตัน |
1,310 |
1,980 |
รถยนต์บรรทุก น้ำหนัก เกิน 12 ตัน |
1,700 |
2,530 |
รถยนต์บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊ส หรือกรด ขนาดน้ำหนักรวม ไม่เกิน 12 ตัน |
1,680 |
1,980 |
รถยนต์บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊ส หรือกรด ขนาดน้ำหนักรวม เกิน 12 ตัน |
2,320 |
3,060 |
หัวรถลากจูง |
2,370 |
3,160 |
รถพ่วง |
600 |
600 |
รถยนต์ที่ใช้ในการเกษตร |
90 |
- |
รถยนต์โดยสาร ที่นั่งไม่เกิน 7 คน ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า |
600 |
1,900 |
ตารางราคาข้างต้น ยังไม่รวมภาษี 7% และเป็นตารางสำหรับกลุ่มรถประเภทรถยนต์เท่านั้น ไม่รวมรถสกายแลป (รถ 3 ล้อ) และรถจักรยานยนต์
เพราะพ.ร.บ.หากลืมต่อไปแล้วก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง หากเกิดอุบัติเหตุใด ๆ ทางรถขึ้นมาแล้ว นอกจากจะต้องเสียค่ารักษาพยาบาลด้วยตนเองแล้ว ยังต้องถูกจับปรับอีกด้วย ดังนั้นจึงต้องหมั่นควรเช็กและเตือนความจำตนเองให้ดีว่าเมื่อไหร่จะถึงกำหนดการต่อพ.ร.บ.แล้ว รวมถึงอย่าลืมเตรียมเอกสารและค่าใช้จ่ายให้พร้อม เมื่อเช็ก ราคา พ.ร.บ. รถยนต์ เรียบร้อยแล้ว เพื่อความอุ่นใจในการใช้งานรถใช้ถนนของตัวคุณเอง