ปัจจุบันตลาดรถ SUV ในเมืองไทยได้รับความนิยมอย่างสูงก็ว่าได้ ซึ่งส่งผลให้มีแบรนด์รถยนต์หลาย ๆ เจ้า ส่งรถ SUV เข้ามาทำตลาดมากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นราคาไม่กี่แสนบาท จนราคาไปถึงราคาเป็นล้านบาทก็ว่าได้ ทั้งนี้คำว่า SUV ถูกย่อมาจากคำว่า Sport Utility Vehicle ซึ่งแปลความหมายง่าย ๆ คือ รถที่มีความอเนกประสงค์ นั้นเอง
ทั้งนี้จะซื้อรถ suv ยี่ห้อไหนดี ทางเราแนะนำจะไม่นับรวมพวกรถกระบะดัดแปลง (PPV) แต่อย่างใด และจะเลือกแนะนำเฉพาะแบรนด์ญี่ปุ่นเป็นหลักเท่านั้น เนื่องจากมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไปนั้นเอง ใคร ๆ ก็สามารถหาซื้อมาใช้ง่ายได้อย่างง่าย ๆ
รถครอบครัวมือสองราคาไม่เกินสองแสน
MG HS (suv ขายดีที่สุดในไทย ปี 2021)
อีกหนึ่งตัวเลือกของการซื้อรถ suv ยี่ห้อไหนดี สำหรับ MG HS ที่สามารถครองแชมป์ยอดขายสะสมเยอะสุดในปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงว่าผู้คนต่างให้การยอมรับถึงแบรนด์ MG พอสมควร ทั้งที่มีชื่อเสียงไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ในรถบ้างรุ่นของค่าย
รูปลักษณ์ภายนอกและภายในที่ดูสวยงามและหรูหรา เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ แบบจัดเต็ม ในราคาที่ถูกก็ว่าได้ ซึ่งจริง ๆ หากนำ MG HS ไปเทียบในพิกัด SUV รุ่นเดียวกันแล้ว จะพบว่าคู่แข่งจะเป็น Mazda CX-5, Honda CR-V และ Subaru Forester ก็ว่าได้
MG HS มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่
- 1.5 TURBO C 2WD 919,000 บาท
- 1.5 TURBO D 2WD 1,019,000 บาท
- 1.5 TURBO X 2WD 1,119,000 บาท
เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า พร้อมจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Twin Clutch Sportronic 7 จังหวะ รองรับน้ำมันสูงสุด E85
MG ZS (suv ราคาถูก)
หากคุณกำลังมองหารถ SUV ราคาถูกที่สุดในท้องตลาดขณะนี้ ตัวเลือกที่ถูกที่สุดก็คือ MG ZS ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นรถยนต์รุ่นขายดีที่สุดของทางแบรนด์ MG ในไทยก็ว่าได้ ครบครันด้วยสมรรถนะที่โดดเด่น (PERFORMANCE) การควบคุมที่หนักแน่นและแม่นยำ (HANDLING) การออกแบบสุดหรู ล้ำ อลังการ (DESIGN) และความปลอดภัยเหนือระดับ (SAFETY)
MG ZS มีรุ่นย่อยทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่
1.5L C+ ราคา 689,000 บาท
1.5L D+ ราคา 739,000 บาท
1.5L X+ ราคา 799,000 บาท
ภายในห้องโดยสารมีจุดเด่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว, จอ TOUCHSCREEN ขนาด 10 นิ้ว, ระบบสั่งการ i-SMART, SMART COMMAND, SMART CONNECT, GPS พร้อมกับกล้อง 360 องศา และมีการตกแต่งด้วยสีทูโทน ตั้งแต่คอนโซนหน้า เบาะนั่ง แผงประตู ทำให้รถดูมีความหรูหรา
เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบ มอบกำลังสูงสุดที่ 114 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 Speed ซึ่งจากที่กล่าวมาทั้งหมดบอกได้ว่า MG ZS เป็นตัวเลือกในการซื้อรถ suv ยี่ห้อไหนดีก็ว่าได้
Toyota Cross รุ่น Hybrid (SUV ประหยัดน้ำมัน)
หากนับเป็นเครื่องยนต์อย่างเดียว Toyota Cross (ครอสโอเวอร์ เอสยูวี) ก็ไม่ได้ประหยัดไปกว่ารถรุ่นอื่น ๆ ในกลุ่ม SUV แต่อย่างใด แต่ Toyota Cross มีรุ่น Hybrid ที่พกพามอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยให้รถสามารถประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นกว่าเครื่องยนต์ธรรมดานั้นเอง
Toyota Cross รุ่น Hybrid จะมาในราคาเริ่มต้นที่ 1,056,000 บาท (รุ่น Hybrid Premium) และราคา 1,199,000 บาท (รุ่น Hybrid Premium Safety)
ทั้งนี้มีการหาอัตราบริโภคน้ำมันอยู่ประมาณ 19 กม./ลิตร โดยขับที่ความเร็ว 110 กม./ชม. ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยที่ดีที่สุดของกลุ่มรถ SUV ที่ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทก็ว่าได้
เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร VVT-i ให้กำลังสูงสุดที่ 98 แรงม้า พร้อมมีระบบมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดที่ 72 แรงม้า และแรงบิด 163 นิวตันเมตร ซึ่งจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า
ภายในห้องโดยสารโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด เหมาะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของใครหลาย ๆ คน โดยมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB และ Apple CarPlay และยังมีลำโพงให้มา 6 ตำแหน่ง, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ที่บังแดดแบบมีกระจกแต่งหน้าพร้อมไฟส่องสว่าง, ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า/ด้านข้าง/ม่านถุงลม/หัวเข้าผู้ขับขี่) เป็นต้น
Nissan Kicks (suv รุ่นไหนดี)
เรียกได้ว่า Nissan Kicks เป็น Suv ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ารุ่นเดียวที่แตกต่างจากเพื่อนในท้องตลาดในขณะนี้ก็ว่าได้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นรถที่ใช้ขุมพลัง Hybrid ในการขับเคลื่อน โดยมีเครื่องยนต์ที่ใช้ในการปั่นไฟเพียงเท่านั้น ซึ่งทาง Nissan เรียกเทคโนโลยีนี้ว่า e-POWER
รุ่นย่อย Nissan Kicks (รถ suv ยี่ห้อไหนดี)
- รุ่น V ราคา 999,000 บาท
- รุ่น E ราคา 949,000 บาท
- รุ่น S ราคา 889,000 บาท
ดีไซน์ภายนอกอาจไม่สวยสะดุดตาใครมากนัก โดยมาพร้อมกระจังหน้า V-Motion ขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมไฟหน้า LED ทรงเรียวแคบ และล้อลาย 5 ก้าน สีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว สำหรับภายในห้องโดยสารให้จออินโฟเทนเมนต์ ขนาด 8 นิ้ว พร้อมเบาะหลังแยกพับได้ 60:40
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร ทำหน้าที่ปั่นไฟฟ้าเพียงเท่านั้น โดยมีชุดมอเตอร์ขับเคลื่อน (EM57) ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า และแรงบิด 260 นิวตันเมตร มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่
- EV Mode โหมดประหยัดพลังงาน เครื่องยนต์เบนซินจะไม่ทำงาน (เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า) จนกว่าปริมาณไฟในแบตเตอรี่จะอยู่ในระดับต่ำ โหมดนี้จะเงียบสนิทเหมือนรถยนต์ไฟฟ้าล้วน
- S Mode โหมดที่ต้องการเพิ่มสมรรถนะในการขับเคลื่อนหรือต้องการอัตราเร่งจากมอเตอร์ไฟฟ้ามากขึ้น
- ECO Mode ระบบ e-POWER จะปรับให้ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:http://mitsubishirakatook.com/