ค้นหารถ Mitsubishi มือสอง

รถ เก๋ง วิ่ง ทาง ไกล เลือกอย่างไรถึงตอบโจทย์การเดินทาง

Mae Noi | 12 ส.ค 2564
การเลือกรถยนต์ที่ใช้งานแบบถูกประเภทนั้น จะช่วยให้การเดินทางของคุณมีความสะดวกสบายอย่างแน่นอน เนื่องจากรถยนต์แต่ละรุ่น แต่ละประเภท ล้วนมีการออกแบบให้มีการใช้งานที่โดดเด่นในแต่ละเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น หากคุณอยากได้รถยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิงแล้ว ก็จำเป็นต้องเลือกรถที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กเป็นปกตินั้นเอง

การเลือกรถยนต์ที่ใช้งานแบบถูกประเภทนั้น จะช่วยให้การเดินทางของคุณมีความสะดวกสบายอย่างแน่นอน เนื่องจากรถยนต์แต่ละรุ่น แต่ละประเภท ล้วนมีการออกแบบให้มีการใช้งานที่โดดเด่นในแต่ละเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น หากคุณอยากได้รถยนต์ที่ประหยัดเชื้อเพลิงแล้ว ก็จำเป็นต้องเลือกรถที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กเป็นปกตินั้นเอง

>>>แนะนำรถ ที่ ประหยัด น้ำ มัน ที่สุดในปี 2022 ในราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท

หากคุณต้องการใช้รถบรรทุกสิ่งของเยอะ ๆ และสามารถลุยไปตามเส้นทางต่าง ๆ ได้มากกว่ารถยนต์ทั่วไป คำตอบที่แน่นอนนั้นก็คือ คุณต้องเลือกซื้อรถกระบะมาใช้งานถึงจะตอบโจทย์นั้นเอง ซึ่งในรถกระบะก็ยังมีให้เลือกแบบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้เลือกใช้งานไปอีกขั้น

บทความนี้จะมาแนะนำรถที่เหมาะกับการเดินทางไกล โดยเฉพาะรถเก๋งซีดานเพียงเท่านั้น และเน้นเฉพาะรถเก๋งซีดานที่ได้รับการยอมรับแล้วว่า ไม่ว่าจะเดินทางในระยะสั้น หรือระยะทางไกล ความสะดวกสบายของรถยนต์ที่มอบให้ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร เรียกได้ว่าความสบายไม่ได้แตกต่างกัน

1. Toyota Camry (รถ เก๋ง วิ่ง ทาง ไกล)

เริ่มต้นกับแบรนด์รถญี่ปุ่นยอดนิยมอย่างทาง โตโยต้า ซึ่งในปัจจุบันรถเก๋งซีดานรุ่นแพงที่สุดที่ขายอยู่ในไทยก็คือ Toyota Camry โดยถูกจัดให้เป็นรถยนต์ D-Segment ปัจจุบันสนนราคาเริ่มต้นที่ 1,4555,000 บาท และมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย

ความสะดวกสบายในห้องโดยสาร พร้อมการตกแต่งนั้น จัดได้ว่าเหมาะสมตามราคาจำหน่าย เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตลอดจนการเก็บเสียงรบกวนที่ดีประมาณหนึ่งก็ว่าได้


ภายในห้องโดยสาร Toyota Camry

ภายในห้องโดยสาร Toyota Camry 

ในส่วนขุมพลังของ Toyota Camry มีให้เลือกแบบเครื่องยนต์ธรรมดาขนาด 2.0 ลิตร กับ 2.5 ลิตร ให้เลือกใช้งาน และยังมีเครื่องยนต์ผสมไฮบริดอีกด้วย

- เครื่องยนต์ธรรมดา ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 167 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที พร้อมส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 จังหวะ

- เครื่องยนต์ธรรมดา ขนาด 2.5 ลิตรให้กำลัง 209 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที พร้อมส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 8 จังหวะ

- เครื่องยนต์ธรรมดา ขนาด 2.5 ลิตรให้กำลัง 178 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบ/นาที ในส่วนระบบไฮบริดมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 120 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร พร้อมส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

2. Honda Accord (รถที่เหมาะกับการเดินทางไกล)

อีกหนึ่งรุ่นของรถเก๋งซีดานยอดนิยมในไทยก็ว่าได้ สำหรับ Honda Accord ซึ่งถูกจัดอยู่ในรถยนต์ D-Segment และถือได้ว่าเป็นรถเก๋งซีดานรุ่นแพงสุดของทางบริษัท Honda ที่ขายในไทยก็ว่าได้ โดย Honda Accord สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,475,000 บาท และมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย

ห้องโดยสารมาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัยพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ตามแบบฉบับรถ Sedan รุ่นหรู ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง หน้าจอเครื่องเสียงแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ระบบแอร์แบบอัตโนมัติแบบแยกส่วน และที่ชาร์จไฟมือถือแบบไร้สายเป็นต้น

ภายในห้องโดยสาร Honda Accord
ภายในห้องโดยสาร Honda Accord

ในส่วนขุมพลังของ Honda Accord มีให้เลือกแบบเครื่องยนต์ธรรมดา และยังมีเครื่องยนต์ผสมไฮบริด

- เครื่องยนต์ธรรมดา ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้าที่ 5,5000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 243 นิวตันเมตร ที่ 1,500-5,500 รอบ/นาที พร้อมส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT

- เครื่องยนต์ไฮบริด ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 145 แรงม้าที่ 6,2000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 175 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที ในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 184 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้าแรงบิด 315 นิวตันเมตร พร้อมส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

3. Volo S60 (รถที่เหมาะกับการเดินทางไกล)

ก้าวกระโดดมาที่แบรนด์รถยุโรปกันบ้าง สำหรับ Volo ที่น่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยแบรนด์นี้มาพร้อมตำนานความปลอดภัยของรถยนต์ระดับโลก เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ไม่เป็นรองใคร โดย Volo S60 คือรถเก๋งซีดานรุ่นเล็กสุดที่ขายในไทยขณะนี้ก็ว่าได้ และมีราคาเริ่มต้นที่ 2,190,000 บาท ซึ่งมีรุ่นย่อยให้เลือก 2 รุ่น

จอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบควบคุมคุณภาพอากาศภายในรถ Clean Zone เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าแบบ จอแสดงผลในคอนโซลกลางแบบสัมผัส 9 นิ้ว และลำโพง 11 จุด เป็นต้น


ภายในของ Volo S60

ภายในของ Volo S60

ในส่วนขุมพลังของ Volo S60 เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 320 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที กำลังรวม 407 แรงม้า แรงบิด 640 นิวตันเมตร ซึ่งล้อหน้าขับเคลื่อนด้วยกำลังของเครื่องยนต์ ในส่วนล้อหลังใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน

4. BMW 3 Series (รถ เก๋ง วิ่ง ทาง ไกล)

อีกหนึ่งตัวเลือกของคนต้องการใช้รถเก๋งซีดานแบรนด์ยุโรป โดย BMW 3 Series มีให้เลือกถึง 2 รุ่นย่อย โดยความแตกต่างหลัก ๆ จะเป็นเรื่องของเครื่องยนต์นั้นเอง ซึ่ง BMW 3 Series สนนราคาเริ่มต้นที่ 2,549,000 บาท

ว่ากันตามตรงห้องโดยสารของ BMW Series 3 อาจมีขนาดที่ไม่ใหญ่สักเท่าไหร่ แต่ทุกอย่างทุกทดแทนด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ครบครัน ตลอดจนความหรูหราตามแบบฉบับรถยนต์ระดับพรีเมียม

ภายใน BMW Series 3
ภายใน BMW Series 3

ในส่วนขุมพลังของ BMW 3 Series มีให้เลือกแบบเครื่องยนต์ธรรมดาขนาด 2.0 ลิตร กับเครื่องยนต์ผสมแบบไฮบริดนั้นเอง

- เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 - 2,500 รอบ/นาที พร้อมส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ

- เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 258 แรงม้าที่ 5,000 - 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ที่ 1,550 - 4,400 รอบ/นาที ในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 113 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 265 นิวตันเมตร

สุดท้ายนี้รถเก๋งซีดานที่ได้แนะนำไปทั้งหมดนั้น เป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์ที่มีขายในท้องตลาดก็ว่าได้ นอกเหนือจาการใช้งานที่สะดวกสบายแล้ว สิ่งที่จำเป็นจริง ๆ ในการเลือกซื้อรถยนต์คงหนีไม่พ้นราคาที่คุณสามารถจ่ายไหวเสียมากกว่า

>>>แนะนำรถยนต์ พลังงาน ไฟฟ้า ราคา ถูกในไทย สามารถใช้งานได้จริง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://mitsubishirakatook.com/