รถ ที่ ทน ที่สุด ใน โลก ทำไมถึงเป็นรถยนต์รุ่นเก่า ๆ

เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นกับประโยคคำที่ว่า “ไฮลักซ์ กระบะผีสิง” ที่มีรายการรถยนต์ฝรั่งชื่อดังอย่างทาง Top Gear ที่ได้นำรถกระบะ Toyota Hilux Hero รถยนต์ในยุค 80s มาทดสอบความทนทานแบบคนปกติไม่ทำกัน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ลงบันไดสูง ขับชนต้นไม้ ตลอดจนเอาไปแช่น้ำทะเลไว้หนึ่งคืน ซึ่งการกระทำแบบนี้ไม่สามารถหยุดยั้งให้ Toyota Hilux Hero พังได้ จนสุดท้ายกลายเป็นคำเรียกติดปากว่าไฮลักซ์ กระบะผีสิง เนื่องจากมันช่างทนทานเสียเหลือเกิน จนแซว ๆ กันว่าเป็นรถ ที่ ทน ที่สุด ใน โลก

>>>แนะนำรถขับเคลื่อน 4 ล้อที่ดีที่สุด (รถกระบะ)

ทั้งนี้รถ ที่ ทน ที่สุด ใน โลก สามารถพูดได้เต็มปากว่าจะเป็นรถยนต์รุ่นเก่า ๆ โดยเฉพาะรถยนต์ในช่วงยุค 80-90s เนื่องจากเทคโนโลยีในการสร้างเครื่องยนต์ถือว่าดีพอประมาณ ตลอดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกต่าง ๆ ทำให้การสร้างรถยนต์มาใช้งานสักคันจะมีความเสถียรอยู่พอสมควรนั้นเอง เครื่องยนต์ในยุคนั้นเรียกได้ว่าเป็นกลไกที่ไม่ซับซ้อน การทำงานด้วยกลไกต่าง ๆ เป็นหลัก และไม่มีกล่องไฟฟ้าใด ๆ เข้ามาควบคุมนั้นเอง

ความไม่ซับซ้อนของเครื่องยนต์จะทำให้ทนทานนั้นเอง ยกตัวอย่างง่าย ๆ หากอยากได้ความเร็วความแรงที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลานั้น ทางค่ายรถยนต์จะทำการเพิ่มขนาดเครื่องยนต์ให้ใหญ่ขึ้นเป็นหลัก ซึ่งเห็นได้ชัดว่ารถยนต์เมื่อก่อนจะมีขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น 3,000 ซี.ซี. 4,000 ซี.ซี. และ 5,000 ซี.ซี. เป็นต้น จะไม่ใช่รูปแบบการสร้างกำลังอัดที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนติดตั้งระบบเทอร์โบเหมือนในยุคปัจจุบัน

นอกจากเครื่องยนต์ที่ไม่มีความซับซ้อน อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้รถ ที่ ทน ที่สุด ใน โลกก็คือ ระบบเกียร์ส่งกำลังนั้นเอง ในปัจจุบันเกียร์อัตโนมัติได้รับความนิยมไปทั่วโลก และมอบความรู้สึกในการขับขี่ไม่แตกต่างจากเกียร์ธรรมดาก็ว่าได้ และยังสะดวกสบายในการขับขี่เป็นอย่างยิ่ง แต่ในอดีตความนิยมของเกียร์ออโตเมติกยังไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากเทคโนโลยีในเวลานั้นยังไม่สามารถทำให้เกียร์ออโตเมติกฉลาดเทียบเท่ากับเกียร์ธรรมดาที่มีผู้ขับเป็นคนควบคุมนั้นเอง ทำให้รถยนต์ในท้องตลาดส่วนใหญ่ในยุคนั้นเป็นเกียร์ธรรมดาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งระบบของเกียร์ธรรมก็เรียกว่าไม่มีอะไรซับซ้อน เป็นแค่ฝันเฟื่องขบกันตามอัตราทน โดยมีน้ำมันเกียร์เป็นตัวหล่อลื่น เท่ากับว่าการดูแลรักษาเกียร์ก็คือ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ในระยะการใช้งานหลายหมื่นกิโลเมตรนั้นเอง

ไม่มีไฟฟ้าใด ๆ ที่ควบคุม โดยเฉพาะเครื่องยนต์ที่จ่ายน้ำมันด้วยคาร์บูเรเตอร์ ไร้ซึ่งไฟฟ้าใด ๆ นั้นเอง โดยระบบไฟของรถยนต์จะเป็นเพียงเรื่องการจ่ายไฟสตาร์ทเครื่องยนต์ จ่ายไปที่คอยล์จุดระเบิด และจ่ายไปยังระบบของไฟสัญญาณต่าง ๆ รอบคันรถยนต์ ซึ่งแตกต่างกับรถยนต์ในปัจจุบันที่มีระบบไฟฟ้าควบคุมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ ความปลอดภัย ระบบอำนวยความสะดวกเป็นต้น

รถ ที่ ทน ที่สุด ใน โลก เกิดจากความเงียบง่ายของเทคโนโลยีนั้นเอง ยกตัวอย่างง่าย ๆ อย่างทาง VW Beetle Chassis (รถเต่ารุ่นเก่า) แม้จะผ่านมากี่สิบปีแล้วก็ตาม คุณยังสามารถเห็นรถเหล่านี้วิ่งอยู่บนท้องถนนเป็นปกติ ทั้งนี้มาจากความเรียบง่ายของเทคโนโลยีนั้นเอง เครื่องยนต์ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศ ไม่มีระบบแอร์ปรับอากาศ ตลอดจนเกียร์ธรรมดา เรียกง่าย ๆ ว่าสตาร์ทเครื่องยนต์ติด เบรกอยู่ ก็สามารถใช้งานได้แล้ว

ในปัจจุบันการจะหารถ ที่ ทน ที่สุด ใน โลกมาใช้งานนั้น อาจแนะนำได้ว่าให้มองไปที่แบรนด์ยอดนิยมเป็นหลัก อย่างน้อย ๆ ความมีชื่อเสียงของแบรนด์จะช่วยรับประกันคุณภาพรถทั้งก่อนซื้อและหลังซื้อมาใช้งาน อย่างไรก็ตามคุณไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าอย่างไรก็ต้องมีการซ่อม เมื่อคุณเลือกรถยนต์ตลาดยอดนิยมแล้ว อะไหล่ชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็จะมีให้เลือกมากมาย ทั้งของแท้และของเทียบ ตลอดจนอู่ซ่อมที่มีให้เลือกมากมายนั้นเอง สิ่งนี้จะช่วยให้รถยนต์ของคุณมีความทนทาน

อย่างไรก็ตามรถ ยี่ห้อ ไหน ดี ที่สุด ใน โลกไม่มีอยู่จริง มันจะมีแต่รถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณที่สุดเสียมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น คุณเลือกซื้อ SUV รุ่นใหญ่อย่างทาง Toyota Land Cruiser ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ สุดท้ายจริง ๆ คุณไม่สามารถจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ไหว ก็เท่ากับว่ารถยนต์รุ่นนี้มันเกินกำลังที่คุณจะซื้อมาใช้งานนั้นเอง สุดท้ายคุณควรเลือกรถยนต์ที่มีความเหมาะสมกับคุณเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ว่าสู้ไหวรึไม่ ตลอดจนความสามารถของรถยนต์ตอบโจทย์ไหม

>>>วิธีการดู รถ บรรทุก มือ สอง ต้องเลือกซื้ออย่างไร ?

ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่:https://mitsubishirakatook.com/